มาร่วมเดินทางไปยังสายบุญกันเถอะครับ! เราจะพาทุกคนไปเยี่ยมชมและไหว้พระที่ วัดป่าโมกวรวิหาร ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความเก่าแก่และมีชื่อเสียงในจังหวัดอ่างทอง ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวอ่างทองมายาวนานมากครับ หากใครกำลังมองหาสถานที่ทำบุญที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เราขอแนะนำวัดนี้เลย เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน และยังอยู่ใกล้ กับตัวเมืองป่าโมกอีกด้วย สำหรับสิ่งที่น่าสนใจที่วัดนี้ คือพระพุทธไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก นับเป็นอีกหนึ่งองค์ที่โดดเด่นในเมืองไทย หากท่านใดสนใจว่าในวัดสวยแห่งอ่างทองนี้มีอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติม ลองติดตามเราไปดูกันนะครับ!
วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง
ประวัติและความเป็นมาของวัด
วัดป่าโมก วรวิหาร ตั้งอยู่ในตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง วัดนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเดิมทีเป็นวัดสองแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ได้แก่ วัดชีปะขาว และวัดตลาด แต่เหตุการณ์บางอย่างทำให้ทั้งสองวัดต้องรวมเป็นวัดเดียวกัน เนื่องจากมีน้ำกัดเซาะเข้ามาใกล้พระวิหาร
เมื่อข่าวนี้ถึงหูของ “สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 3” พระองค์จึงมีพระราชดำริให้พระยาราชสงครามดำเนินการชะลอการลากพระออกห่างจากแม่น้ำเดิม หลังจากนั้นพระองค์ได้เสด็จมาควบคุมการชะลอองค์พระให้พ้นจากกระแสน้ำที่กัดเซาะตลิ่ง และได้นำองค์พระไปตั้งไว้ที่วิหารใหม่ที่วัดตลาด ห่างจากฝั่งแม่น้ำประมาณ 160 เมตร จากนั้นพระองค์ได้มีพระราชดำริให้รวมวัดตลาดเข้ากับวัดชีปะขาว และทรงพระราชทานชื่อใหม่ว่า วัดป่าโมก เนื่องจากพื้นที่นั้นมีต้นโมกขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก
ความน่าสนใจภายในวัด
พระพุทธไสยาสน์
องค์พระมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากอิฐและปูนปิดทอง โดยมีความยาวตั้งแต่พระเมาลีถึงปลายพระบาทประมาณ 22.58 เมตร มีการคาดการณ์ว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ซึ่งมีตำนานเล่าว่า พระพุทธรูปนี้ได้ลอยมาตามน้ำและจมอยู่ที่พื้นที่หน้าวัด ชาวบ้านได้ทำการบวงสรวงและช่วยกันดึงขึ้นมาเพื่อประดิษฐานไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
วิหารพระพุทธไสยาสน์
เป็นวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นตัวอย่างของพุทธศิลป์และสถาปัตยกรรมในช่วงปลายของอยุธยา วิหารนี้มีการใช้วัสดุอิฐในการก่อสร้าง และมีลักษณะเป็นหลังคาที่ใช้ปูนเป็นเครื่องบนไม้ มีฐานอ่อนที่โค้งเหมือนสำเภา
ภายในพระวิหารมีภาพวาดที่แสดงถึงการเคลื่อนย้ายพระพุทธไสยาสน์จากริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไปยังวัดปาโมกวรวิหาร โดยการเคลื่อนย้ายนี้เกิดจากความร่วมมือและแรงใจของชาวบ้านที่มีความศรัทธาต่อองค์พระอย่างลึกซึ้ง
วิหารเขียน
สำหรับวิหารเขียนนั้นเป็นสถานที่ที่มีตำนานเล่าขานกันว่า ผนังด้านที่หันไปทางแม่น้ำจะมีแท่นสูง ซึ่งพระมหากษัตริย์ได้เสด็จมาประทับยืนบนแท่นนี้ นอกจากนี้ยังมีมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธบาท 4 รอยอยู่ภายในวิหารด้วยเช่นกัน
การเดินทาง
สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังอ่างทอง ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ โดยมีเส้นทางให้เลือก 3 เส้นทางดังนี้
- เส้นทางที่ 1 : มุ่งหน้าไปตามถนนพหลโยธินหรือทางหลวงหมายเลข 32 ขับรถจากกรุงเทพฯ แล้วแยกเข้าเส้นทางสายเอเชีย โดยจะผ่านอำเภอบางปะอิน รวมระยะทางทั้งสิ้น 105 กิโลเมตร
- เส้นทางที่ 2 : มุ่งหน้าไปยังเส้นทางใหม่ โดยขับข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า – ตลิ่งชัน เพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 340 จากนั้นให้ขับต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านจังหวัดนนทบุรี – ปทุมธานี – พระนครศรีอยุธยา – สุพรรณบุรี จนกระทั่งถึงจังหวัดอ่างทอง รวมระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร
- เส้นทางที่ 3 : มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ – ปทุมธานี ขับรถผ่านปากเกร็ดเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 3111 จากนั้นขับต่อไปเรื่อยๆ ผ่านอำเภอบางไทร – อำเภอเสนา – พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นให้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางหมายเลข 3263 และขับต่อเพื่อเข้าถนนหมายเลข 309 สู่อำเภอป่าโมก – อ่างทอง รวมระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร หรือจะเลือกใช้ทางพิเศษอุดรรัถยาได้เช่นกันครับ
ข้อมูล ของ วัดป่าโมก อ่างทอง
- สถานที่ตั้งของวัด : ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
- วันเวลาที่เปิด : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ต้องยอมรับว่า วัดป่าโมกวรวิหาร เป็นหนึ่งในวัดที่สวยงามในอ่างทอง ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนเพื่อขอพรจากพระพุทธไสยาสน์ แถมยังมีภาพวาดและลวดลายศิลปะจากสมัยอยุธยาในวิหารที่งดงามให้ได้ชมอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมีโอกาสให้อาหารปลาเพื่อทำบุญได้อีกด้วยครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ
