วัดสุทัศนเทพวนารามราชวรมหาวิหาร หรือที่มักเรียกกันว่า วัดสุทัศน์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ และประเทศไทย วัดนี้ได้รับการยกย่องในด้านสถาปัตยกรรมว่าเป็นหนึ่งในวัดที่มีการออกแบบที่สวยงามที่สุดในยุครัตนโกสินทร์ ผู้คนมักมาเยี่ยมชมและกราบไหว้พระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานอยู่ในวัด นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวัดประจำรัชกาล วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งนี้กันอย่างละเอียดมากขึ้น
วัดสุทัศนเทพวนาราม กรุงเทพมหานคร

วัดสุทัศนเทพวนารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันว่า วัดสุทัศน์ ตั้งอยู่ที่หมายเลข 146 ริมถนนตีทอง 1 ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หน้าวัดหันไปทางถนนอุณากรรณ โดยฝั่งถนนบำรุงเมืองจะอยู่ตรงข้ามกับเสาชิงช้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้วัดนี้ยังไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่น ๆ เนื่องจากมีสัตตมหาสถานซึ่งเป็นอุเทสิกเจดีย์ (ต้นไม้สำคัญในพุทธศาสนา 7 ชนิด) แทนที่
ประวัติและความเป็นมา
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นหนึ่งในหกวัดที่ได้รับการจัดอันดับเป็นพระอารามหลวงที่สูงที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ได้มีพระราชดำริในการสร้างวัดเพื่อเป็นศูนย์กลางของพระนคร โดยพระราชทานชื่อว่า วัดมหาสุทธาวาส ซึ่งมีความหมายมาจากชื่อสวรรค์ในพรหมโลก พระองค์ได้มีพระราชโองการให้สร้างพระวิหารหลวงขึ้นก่อน โดยมีความสูงเท่ากับวัดพนัญเชิงในกรุงศรีอยุธยา
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้มีพระราชประสงค์ให้อัญเชิญพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ คือ พระพุทธศรีศากยมุนี จากวัดมหาธาตุในกรุงสุโขทัย (ซึ่งในขณะนั้นเป็นวัดร้าง) มาประดิษฐานในวิหารหลวงด้วย

การก่อสร้างเสร็จสิ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยได้มีการออกแบบและวางผังวัดตามแนวคิดจักรวาลในคัมภีร์ไตรภูมิโลกวินิจฉัย พระวิหารหลวงถูกเปรียบเทียบกับเขาพระสุเมรุ และได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสุทัศนเทพธาราม ซึ่งมีชื่อมาจาก สุทัศนนคร เมืองของพระอินทร์ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บนยอดเขาพระสุเมรุ ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนแปลงชื่อวัดใหม่เป็น วัดสุทัศนเทพวราราม
ในยุคของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 วัดสุทัศนเทพวรารามมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการคณะสงฆ์ เนื่องจากเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (แพ ติสฺสเทโว) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 12 ในกรุงรัตนโกสินทร์) และยังได้กลายเป็นสถานที่จัดตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์แรกของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 อีกด้วย โดยพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ได้รับการอัญเชิญมาประดิษฐานที่ผ้าทิพย์บนฐานพระพุทธศรีศากยมุนีในพระวิหารหลวง
ความน่าสนใจภายใน วัดสุทัศน์
พระอุโบสถ

พระอุโบสถ ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ก่ออิฐถือปูน มีขนาดกว้าง 22.60 เมตร และยาว 72.25 เมตร หน้ามุขกระสันมีความกว้าง 14 เมตร และยาว 10.40 เมตร อาคารตั้งอยู่บนฐานไพทีชั้นที่ 2 โดยมีเฉลียงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และอยู่ในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งถือเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ภายในพระอุโบสถมีผนังที่ประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สร้างสรรค์โดยช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า, รามเกียรติ์, และเรื่องสุทัศนนคร
พระวิหารหลวง

พระวิหารหลวง ได้รับการก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยมีจุดประสงค์เพื่อประดิษฐาน พระศรีศากยมุนี ซึ่งถูกอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมไทยที่มีลักษณะเฉพาะในยุคอยุธยาตอนต้น ขนาดของพระวิหารมีความกว้าง 23.84 เมตร และยาว 26.35 เมตร โดยสร้างอยู่บนฐานไพทีชั้นที่ 2 ซึ่งได้รับการก่อสร้างจากอิฐถือปูนอย่างมั่นคง
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร

ประดิษฐานอยู่ที่หน้าพระวิหารหลวง มีเรื่องเล่าขานกันว่า ในวัยเยาว์ พระองค์เคยเสด็จฯ มายังวัดสุทัศน์ และได้ตรัสว่าเป็นวัดที่เงียบสงบและน่าอยู่ เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 จึงได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุใต้ผ้าทิพย์ที่หน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีในพระวิหารหลวง ซึ่งในวันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี จะมีการจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด
1. พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต)

ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารหลวง พระพุทธรูปประธานของวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร ได้ถูกนำมาจากวิหารหลวงของวัดมหาธาตุในเมืองสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ มีหน้าตักกว้าง 3 วา 1 คืบ และสูง 4 วา มีพุทธลักษณะที่สวยงาม ใต้ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์ของพระศรีศากยมุนีได้บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของรัชกาลที่ 8 ในขณะที่ด้านหลังมีแผ่นศิลาจำหลักจากสมัยทวารวดี ที่สลักภาพพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่หาชมได้ยาก
2. พระสุนทรีวาณี (ลอยองค์)

ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ถูกหล่อขึ้นด้วยสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตัก 18 นิ้ว ประทับนั่งอยู่บนดอกบัว โดยยกพระหัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก เทพธิดาในที่นี้เปรียบเสมือนพระธรรม ขณะที่ดอกบัวนั้นเปรียบเหมือนพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า อาการกวักจึงมีความหมายเชิญชวนให้เข้ามาใกล้ชิดกับตน พระสุนทรีวาณี (ลอยองค์) ตั้งอยู่บนฐานหินอ่อน ที่ฐานมีการจารึกคาถาพระสุนทรีวาณีในอักษรขอม เชื่อกันว่าผู้ที่สวดพระคาถาบูชาพระสุนทรีวาณีจะได้รับสติปัญญาที่เฉียบแหลม นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างยั่งยืน
3. พระพุทธตรีโลกเชษฐ์

ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยในรูปแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ ขนาดหน้าตักกว้าง 3 วา 17 นิ้ว สูง 4 วา 18 นิ้ว หล่อด้วยสัมฤทธิ์และปิดทองในรัชกาลที่ 3 โดยพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดวงจักร กรมหมื่นณรงค์หริรักษ์ เป็นผู้หล่อขึ้นที่โรงหล่อในพระบรมมหาราชวัง นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุหลวงที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำมาประดิษฐานในองค์พระพุทธรูปด้วย ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระนามว่า พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ พร้อมทั้งทรงให้สร้างอสีติมหาสาวกจำนวน 80 องค์ ที่นั่งพนมมือฟังพระบรมพุทโธวาทอยู่เบื้องพระพักตร์พระพุทธเจ้า
ข้อมูลของ วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพ
- สถานที่ตั้ง : ถนนบำรุงเมือง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ
- พิกัด : https://goo.gl/maps/DMXB1iZ8hxpHn2dK8
- วันเวลาที่เปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 21.00 น.
สำหรับ วัดสุทัศนเทพวนารามราชวรมหาวิหาร นับเป็นอีกหนึ่งพระอารามหลวงที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปสักการะและขอพรได้มากมาย หากมีโอกาสก็ขอเชิญชวนให้ไปเยือนกันสักครั้ง สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ