หากใครได้มีโอกาสเดินทางไป เชียงใหม่ เราจะเห็นองค์พระธาตุสีทองอร่ามของ วัดพระธาตุดอยคำ นั้นเด่นชัดมาแต่ไกล ซี่งที่นี่เองที่เป็นจุดสังเกตของการบินไทยก่อนที่จะทำการลดระดับเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานนับพันปี ตั้งแต่สมัย หริภุญชัย เลยทีเดียวครับ วันนี้ลองตามเรามาดูกัน ว่า วัดดังเชียงใหม่ แห่งนี้จะมีตำนานและประวัติอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้างดีกว่า
วัดพระธาตุดอยคำ ที่ไหว้พระ วัดดังเชียงใหม่
วัดดอยคำ นั้นมีที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเล็ก ๆ บริเวณ ดอยคำ โดยสูงกว่าระดับน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร ในตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญ แถมยังมีความเป็นมายาวนานมากกว่า 1300 เริ่มต้นตั้งแต่สมัยหริภุญชัย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ พระธาตุดอยคำ ที่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่ง ที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบไหว้ขอพรอย่างไม่ขาดสายในแต่ละวัน
ประวัติ วัดพระธาตุดอยคำ
วัดดอยคำ ที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนั้นได้ผ่านการบูรณะปฏิสังขรมาไม่น้อยเลยครับ จึงทำให้สภาพของวัดนั้นดูมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ววัดแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า วัดสุวรรณบรรพต ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ. 1230 โดย เจ้ามหันตยศ และ เจ้าอนันตยศ ซึ่งเป็นพระโอรสทั้ง 2 พระองค์ของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย โดยภายในวัดแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งประดิษฐานของ พระธาตุดอยคำ ศาลาการเปรียญ รวมไปจนถึงพระพุทธรูปสำคัญๆ อีก 2 องค์ ซึ่งก็คือ พระรอดหลวง พระพุทธรูปหินทรายปิดทององค์ใหญ่ และ พระสามหมอ พระพุทธรูปเนื้อดินที่ได้มีการขุดพบโดยชาวบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2509 จากนั้นได้นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล
ตำนาน พระธาตุดอยคำ กับ ปูแสะย่าแสะ
นอกจาก พระธาตุดอยคำ พระรอดหลวง และ พระสามหมอแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมีรูปยักษ์ 2 ตน ที่ถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับ พระธาตุดอยคำ แห่งนี้ด้วยเช่นกัน ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ดอยคำ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ผัวเมีย 2 ตน คู่หนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า จิตา และ ตาเขียว แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านนั้นจะเรียกกันว่า ปู่แสะ และ ย่าแสะ มีอยู่มาวันหนึ่ง เทวดาได้นำพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปให้กับปูแสะและย่าแสะเพื่อเก็บรักษาโดยฝังไว้บน ดอยคำ และก่อสถูปครอบทับเอาไว้
จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 1230 ที่พระโอรสทั้ง 2 พระองค์ของพระนางจามเทวีมาพบเข้า จึงทรงโปรดให้สร้างเจดีย์ครอบสถูปไว้อีกชั้นหนึ่ง กลายเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเชียงใหม่คู่กับ พระธาตุดอยสุเทพ ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ พระธาตุดอยคำ ไปไม่ไกลนี่เอง
ความเป็นมาของหลวงพ่อทันใจ
หลวงพ่อทันใจ นั้นเป็นพระพุทธรูปที่ใช้เวลาในการสร้างเสร็จภายใน 1 วัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และทำให้ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่านั่นเป็นเพราะพุทธานุภาพและปาฏิหาริย์ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลทำให้ชาวบ้านปักใจเชื่อว่า “หลวงพ่อทันใจ” คือพระพุทธรูปที่สามารถช่วยบันดาลพรและความสำเร็จ ให้แก่ผู้ที่ได้เดินทางมาอธิษฐานขอพรได้อย่างทันใจ ดังนั้นที่มาของชื่อ “หลวงพ่อทันใจ” ไม่ได้เกิดมาจากอธิษฐานอะไรก็สมปรารถนาในทันทีทันใด แต่เป็นเพราะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างเสร็จภายใน 1 วัน
ในการสร้างพระเจ้าทันใจนั้น มีลักษณะที่แปลกกว่าการสร้างพระพุทธรูปอื่นๆ คือจะมีการบรรจุหัวใจพระเจ้า มีลักษณะคล้ายกับหัวใจของมนุษย์ ตลอดจนการบรรจุวัตถุมงคลสิ่งของมีค่าไว้ในองค์พระพุทธรูปด้วย และในช่วงระยะเวลาที่กำลังปั้น จะต้องมีการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ตลอดทั้งคืนจนสว่างด้วย
ต่อมา หลวงพ่อทันใจ ได้กลายเป็นที่นิยมและได้ยินกิตติศัพท์ของความสำเร็จจากการอธิษฐานมากที่สุด ทั้งเรื่องของการขอโชคลาภจาก การงาน การค้า และการเสี่ยงโชค โดยเฉพาะอย่างหลัง สังเกตจากเสียงร่ำลือจากผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งมีผู้ที่สมหวังมากกว่าไม่สมหวัง แต่การขอพรต่อสิ่งใดนั้น บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับคุณงามความดี หรือสิ่งที่มีอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน ว่าจะทำให้เรื่องเหล่านั้นเป็นจริงหรือสัมฤทธิ์ผลได้หรือไม่
ข้อมูล พระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่
- ที่อยู่ : 108 ถนนเชียงใหม่-หางดง สุเทพ เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
- พิกัด : https://goo.gl/maps/rn1kecw7jDFKEcHz5
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
- โทร : 0-5324-8604 , 0-5324-8607
- เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/DoiKhamTemple
และด้วยความที่วัดสวยเชียงใหม่ตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ บรรยากาศรอบๆ วัดพระธาตุดอยคำ จึงโอบล้อมด้วยธรรมชาติและป่าเขา อีกทั้งยังมีจุดชมวิวตรงระเบียงวัด ทำให้เราเห็นทิวทัศน์ของบ้านเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงหน้าหนาว อากาศบนนี้ก็จะมีความเย็นสบาย เหมาะแก่การมาไหว้พระทำบุญ ดื่มดำบรรรยากาศ วัดดังเชียงใหม่ แห่งนี้เพื่อทำจิตใจให้สงบร่มเย็นจริงๆ