ปักหมุด วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร ชมความงามจิตรกรรมฝาผนัง จากสมัยรัตนโกสินทร์

ในเขตธนบุรีมี วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร รวมถึงวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเรียงรายตามริมคลองอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละวัดมีศิลปกรรมที่สวยงาม ควรค่าแก่การเยี่ยมชม สำหรับวัดที่ผมอยากนำเสนอในครั้งนี้ นอกจากจะมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น คือพระอุโบสถและพระวิหารที่สวยงามแล้ว ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ที่มีการประลองฝีมือของสองศิลปินระดับตำนานแห่งยุค โดยมีพระพุทธรูปองค์สำคัญประดิษฐานอยู่ที่นั่น วัดนั้นคือ วัดสุวรรณาราม แห่งนี้ครับ

วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

วัดสุวรรณารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ประเภทราชวรวิหาร ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

ประวัติและความเป็นมาของวัด

วัดสุวรรณาราม เคยมีชื่อเรียกว่า “วัดทอง” เป็นวัดเก่าแก่ที่เชื่อว่าตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อเข้าสู่ยุครัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการบูรณะและปรับปรุงวัดใหม่เกือบทั้งหมด โดยได้มีการสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร และกำแพงแก้ว รวมถึงมีการสร้างเก๋งด้านหน้า 2 หลัง พร้อมทั้งเสนาสนะต่างๆ

นอกจากนี้ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 ได้มีพระราชดำริให้สร้างฌาปนสถานสำหรับปลงศพเจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่ที่พระอารามนี้ โดยใช้เป็นพระเมรุหลวงจนถึงสมัยรัชกาลที่ 4

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์เพิ่มเติม พร้อมขยายพื้นที่วัดให้กว้างขึ้น โดยโปรดให้สร้างกุฏิสงฆ์จำนวน 6 หลัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน รวมทั้งสร้างหอระฆัง, หอพระไตรปิฎก และศาลาการเปรียญ นอกจากนี้ยังมีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถด้วย

เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้จัดงานสมโภชพระอารามในปี พ.ศ. 2374 และได้พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสุวรรณทาราม” ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯให้เรียกชื่อวัดอย่างถูกต้องว่า “สุวรรณาราม”

ความน่าสนใจภายในวัด

จิตรกรรมฝาผนัง “เพชรน้ำงาม

จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดสุวรรณารามถือเป็นอัญมณีที่มีค่าในวงการศิลปะไทยยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ภาพวาดที่ปรากฏอยู่เป็นผลงานของจิตรกรชั้นนำในสมัยรัชกาลที่ 3 อาทิเช่น หลวงวิจิตรเจษฎา (ครูทองอยู่) และหลวงเสนีบริรักษ์ (ครูคงแป๊ะ) โดยสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (นายช่างใหญ่ของกรุงสยาม) ได้กล่าวถึงครูช่างเขียนทั้งสองในหนังสือที่กราบทูลสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย) เมื่อปี พ.ศ. 2458 ว่า “ครูทองอยู่เขียนเนมิราช ส่วนครูคงแป๊ะเขียนมโหสถ ผลงานของทั้งสองถือเป็นเลิศในยุคสมัยรัชกาลที่ 3”

ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถนี้ แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติและภาพทศชาติ โดยที่ผนังด้านหน้าพระประธานระหว่างช่องประตู มีการวาดภาพพุทธประวัติในตอนเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ และตอนประสูติ ขึ้นไปเหนือกรอบประตูจะเห็นภาพมารผจญ

ส่วนฝาผนังด้านซ้ายของพระประธานระหว่างช่องหน้าต่างนั้น มีการวาดภาพทศชาติเรียงตามลำดับ ได้แก่ เตมียชาดก มหาชนกชาดก สุวรรณสามชาดก เนมิราชชาดก มโหสถชาดก ภูริทัตชาดก จันทกุมารชาดก นารทชาดก และวิธุรชาดก ขึ้นไปเหนือกรอบหน้าต่างจะมีภาพเทพชุมนุมปรากฏอยู่

พระศาสดา

พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปที่หล่อในปางมารวิชัย มีความสูง 8 ศอก 1 คืบ 8 นิ้ว และหน้าตักกว้าง 6 ศอก 1 คืบ แม้จะไม่มีการบันทึกชื่อแต่แรก ชาวบ้านได้ตั้งชื่อเรียกกันว่า “พระศาสดา” สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทำการสันนิษฐานในหนังสือเกี่ยวกับตำนานพระพุทธรูปสำคัญว่า พระพุทธรูปองค์นี้ไม่มีเรื่องราวที่ชัดเจน แต่จากการพิจารณาลักษณะของพระพุทธรูป พบว่าเป็นงานของช่างเดียวกับที่สร้างพระศรีสากยมุนีที่วัดสุทัศน์ จึงมีการสันนิษฐานว่าอาจจะมีการนำมาจากสุโขทัยในช่วงรัชกาลที่ 1

ข้อมูลของ วัดสุวรรณาราม กรุงเทพ

• สถานที่ตั้ง : ซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
• เวาลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น.

การเดินทางไปยังวัดนี้ในปัจจุบันสะดวกสบายมาก เนื่องจากมีรถเมล์หลายสายที่ผ่านหน้าปากซอยวัด และที่สำคัญคือมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่สามารถลงได้ที่สถานีบางขุนนนท์ หากมีโอกาสก็ขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมกันนะครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ